มาดามมล นฤมล ศิริวัฒน์ ประธาน กมธ.กีฬาวุฒิสภา สะกิตภาครัฐหันมาให้การสนับสนุนกีฬามวยไทยอย่างแท้จริง หลังสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟมา) และทั่วโลกพร้อมหนุนเข้า อลป. แต่อดห่วงต้นตำรับที่ไร้การตื่นตัว แนะ กกท.สร้างระบบด้วยการอบรมไลเซนส์ ขณะที่ สถาบันกีฬาชั้นสูงของอุซเบกิสถาน เตรียมแตะมือ ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง แลกเปลี่ยนบุคลากร หลังจากที่คณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิ
นำโดย มาดามมลนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะฯ ได้เดินทางไปอุซเบกิสถาน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเชื่อมสัมพันธไมตรีทางด้านกีฬาระหว่างสองประเทศ และยังได้ร่วมหารือกับสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟมา) ถึงแนวทางการยกระดับกีฬามวยไทยสมัครเล่นให้มีมาตรฐานไปสู่ความเป็นสากล โดยเฉพาะการหาแนวทางในการผลักดันให้ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งชนิดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ในอนาคตนั้น
ล่าสุด นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธาน กมธ.กีฬาวุฒิสภา เผยว่า ปัจจุบันอุซเบกิสถานตื่นตัวมากกับกีฬามวยไทย เห็นได้จาก การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก ประจำปี 2011 ที่มีผู้ชมนับหมื่นแย่งกันเข้าไปชมในอุซเบกิสถาน สปอร์ต คอมเพล็กซ์ ทั้งทีนเศษ และนอกจรแข่งขันแล้ว 93 ยิมที่เปิดสอนกีฬามวยไทยรัฐบาลเขาก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
เท่าที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายเทอซูนาลี คูซิเยฟ รมต.วัฒนธรรมและกีฬาของอุซเบกิสถาน เขายืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับกีฬามวยไทยเป็นอย่างมาก จาก 60 เปอร์เซ็นต์ กีฬา กับ วัฒนธรรม ได้รับการสนับสนุนถึง 12 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่างจากบ้านเราที่ได้ไม่ถึงเปอร์เซ็นต์ อย่างในการผลิตนักกีฬาเขาก็ได้สร้างสถาบันชั้นสูง Physical culture Institution โดยเปิดสอน 18 สาขาวิชา และกีฬามวยไทยก็กำลังจะเป็นหนึ่งในนั้น โดยมีนักศึกษาสนใจถึง 30 คน
ประธาน กมธ.กีฬาวุฒิสภา กล่าวอีกว่า สถาบันแห่งนี้มีแผนที่ทำการแลกเปลี่ยนบุคลากรสอนมวยไทย ซึ่ง กมธ.ก็แนะนำให้เชื่อมโยงกับ ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี ที่เปิดสอนหลักสูตรมวยไทย และสิ่งที่น่าดีใจอีกอย่างคือ ประเทศอย่าง ยูเครน, เบลารุส, คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน และ รัสเซีย มีความตื่นตัวกีฬามวยไทยมาก มียิมหลายร้อยยิมที่เปิดสอน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องกลับมาคิดถึงมาตรฐานของเรา
อยากจะให้ กกท.สร้างมาตรฐานให้เป็นระบบ มีการอบรมไลเเพื่อรักษาความเป็นต้นตำรับ ละเท่าที่ได้ร่วมประชุมกับ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ และตัวแทนจากประเทศต่างๆไม่ว่าจะเป็น เดนมาร์ก, ฮอลแลนด์, ฝรั่งเศส ฯลฯ ได้แสดงความเห็นและห่วงใยถึงความตื่นตัวในประเทศไทย เพราะปัจจุบันเพชรเม็ดนี้ได้ขยายไปทั่วโลกแล้ว
นางนฤมล กล่าวปิดท้ายว่า การที่เข้าไปจับกีฬามวยไทยถือว่ามีคุณค่ายิ่งกว่าไปตั้งบิลบอร์ด หรือ ออกโทรทัศน์ จึงอยากเห็นรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างแท้จริง เพื่อในอนาคตมวยไทยจะได้มีที่ยืนในกีฬาโอลิมปิกเกมส์
