บัวขาวแขวนนวมตัดปัญหายืดเยื้อ
สืบเนื่องจากที่ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท.ได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่าย คือ ค่ายมวย ป.ประมุข กับ บัวขาว ป.ประมุข หรือนายสมบัติ บัญชาเมฆ นักมวยไทยชื่อดัง มาไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติ เมื่อ 22 พ.ค. และใกล้จะได้ข้อยุติในเรื่องของรายละเอียดซึ่งลงตัวที่บัวขาวจะได้รับส่วนแบ่ง 60% ค่ายได้ 40% ส่วนรายได้อื่นบัวขาวจะได้รับ 75% ค่ายมวยรับ 25% แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงเรื่องที่บัวขาวขอให้ทางค่าย ป.ประมุข ถอนฟ้อง ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม นักวิทยาศาสตร์การกีฬาประจำตัว
ล่าสุดเมื่อ 31 พ.ค.ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายได้นัดมาเจรจาเพื่อสรุปข้อสัญญากันใหม่อีกครั้งโดยมี สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมมวยอาชีพ เป็นประธาน ร่วมกับนายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่า กกท. และนายเดช ใจกล้า ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ได้ร่วมกันพูดคุย โดยที่ประชุมได้ร้องขอให้สื่อมวลชนที่เดินทางไปทำข่าวออกจากห้องประชุมก่อนเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้เจรจากันอย่างเปิดอก แต่ "กำนันแก๊"ประมุข โรจนตัณฑ์ แย้งว่า เพื่อความโปร่งใสและความชัดเจน อยากจะใวลชน รับฟังด้วย
ทนายฝั่ง ป.ประมุข ระบุว่า พร้อมยินดีทำตามคำขอของบัวขาวที่จะให้ถอนฟ้อง นายธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม จากนั้นทั้งสองฝ่ายที่นำทนายความส่วนตัวมาด้วยกัน ได้ทำการพูดคุยตกลงเจรจากันในเรื่องของสัญญาที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่างขึ้นมาใหม่ ซึ่งบรรยากานประเด็นของการรับงานชกมวย หรือ งานโชว์ตัว อย่างไรก็ตาม เทพปกรณ์ อินทรพัฒน์ ทนายความบัวขาวได้ร้องขอให้เปลี่ยนเป็น บัวขาว ให้เป็นผู้ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงส่วนแบ่งที่นอกเหนือจากการชกมวยบนเวทีให้เป็นของบัวขาว แต่เพียงผู้เดียว และจะไม่ใช้ชื่อว่า บัวขาว ป.ประมุข ซึ่งไม่เหมือนกับการตกลงกันครั้งแรก
เหตุนี้ทำให้นายวิวรรธนื แสงสุริยะฉัตร ทนายฝั่งป.ประมุข โต้แย้งว่าทางค่ายรับได้ทุกอย่างแต่ข้อเสนอเปลี่ยนไป และมีการเรียกร้องมากขึ้น ทางออกคือควรจะหาคนมาซื้อสิทธิ์ในตัวของบัวขาวไปเสียเพราะทางฝั่งของ กำนันแก๊ เขาก็โอเคแล้ว ซึ่งตนจะดำเนินการให้ว่าแต่ว่าทางบัวขาวจะคิดอย่างไรจะได้ไม่มีข้อผูกพันธ์กันอีก โดยบัวขาว ซึ่งรับฟังอย่างสุขุมมาตลอด 1 ชม.เศษ กดไมก์และระบุว่าขอเลิกชกมวยให้รู้แล้วรู้รอดเพื่อยุติปัญหาเหล่านี้ไป
"ผมนอนคิดมาหลายคืน รู้สึกเครียดกับเรื่องทีเกิดขึ้นมายาวนาน เพื่อตัดปัญหาไปก็ขอเลิกชกมวยไป ผมตัดสินใจดีแลละตัดสินใจคนเดียว เลิกจริงๆครับ วันนี้ผมอายุมากแล้ว 30 ปีที่กว่าไปเลิกมวยตอนชกไม่ไหว ขอบคุณแฟนมวยทุกคนที่เป็นกำลังใจมาตลอด อย่างไรก็ตามยังคงอยู่ในวงการมวยต่อไปเพราะมีค่ายมวย บัญชาเมฆ ที่จ.สุรินทร์ต้องดูแล" บัวขาวกล่าว
ด้าน กำนันแก๊ กล่าวว่า สัญญาซึ่งใกล้จะลงตัวแต่ต้องพังทั้งหมดนั้นเป็นเพราะมือที่ 3 แน่นอนแต่ทางเลือกของบัวขาวก็เหมาะสมดี แม้จะเสียดายที่วงการมวยไทยจะต้องสูญเสียยอดมวยไปแต่เมื่อเป็นความต้องการของเจ้าตัวก็ไม่ขัด
ที่มา-ข่าวสดออนไลน์
ผมเคยเขียนกลอนโพสต์ไว้ในเว็บ Thairec ตอนที่มีกระทู้ว่า แบบัวขาวจะมาชี้แจงหรือไม่มาก็ต้องมีโทษแบนห้ามชก 6 เดือนแน่ ๆ...แต่เมื่อเห็นตกลงกันได้ในตอนแรก ก็พลอยดีใจด้วย จะได้ยุติเสียที เพราะเห็นใจทั้งสองฝ่าย...แต่แล้วก็ต้องขัดกันอีก ตกลงกันไม่ได้ ใครจะผิดจะถูกไม่ว่ากัน แต่เมื่อประกาศแขวนนวมแน่แล้ว ก็อยากจะนำกลอนบทนั้นมาโพสต์อีกที(ไม่ได้ว่าใครนะครับ)สรุปว่า...ถึงอย่างไร ไม่พ้นผิดมีโทษติด- ตามตัว ชั่วสลายตกเป็นทาส ขาดเป็นไท ไปจนตายเมื่อกฎหมาย เกื้อหนุน นายทุนแทน!มีทางเดียว ที่ทำได้ ให้พ้นทาสต้องตัดขาด เรื่องชกมวย ด้วยการแขวนฯเปลี่ยนอาชีพ รีบหา งานมาแทนถึงยากแค้น ก็หมดสิ้น...คนกินแรง !
คิดไปเองเมื่อชาติต้องการ