ลุยมวยโลกสไตล์...บ๊อกซิ่ง บอย
มวยสร้างพลังโสมแดนลุงแซม จิ-ฮุน คิม แชมป์โลก IBO คนแรกของเกาหลีใต้
ในหลายสิบปีที่ผ่านมานั้น กีฬามวยสากลอาชีพนับได้ว่าเป็นหนึ่งในชนิดกีฬา ที่ได้รับความนิยมมากประเภทหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ ดังจะเห็นได้จากการที่เกาหลีใต้นั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ร่วมก่อตั้งสหพันธ์มวยภาคตะวันออกและแปซิฟิค หรือ OPBF ในรุ่นที่ 2 ภายหลังจากที่กลุ่มประเทศสมาชิกรุ่นแรกอย่าง ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, และไทย ได้ร่วมกันก่อนตั้งองค์สหพันธ์มวยภาคตะวันออก หรือ OBF ขึ้นมาตั้งแต่ปี 1952 โดยประเทศเกาหลีใต้นั้นได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของ OBF ตั้งแต่ปี 1957 ก่อนที่สถาบันแห่งนี้จะถูกนำเข้าไปเป็นองค์กรย่อยของสภามวยโลก หรือ WBC ในปี 1963 ทันทีที่ทาง WBC ประกาศแยกตัวออกมาจากสมาคมมวยโลก หรือ WBA ก่อนที่ต่อมาสถาบันดังกล่าวจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น OPBF ในปี 1977 เมื่อประเทศออสเตรเลียได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของสถาบันแห่งนี้ โดยหนึ่งในคนมวยของเกาหลีใต้ที่เป็นที่รู้จักกันดีนั้นก็คือ มร. ลี วอน บ๊อค หรือ เมเจอร์ ลี อดีตประธานใหญ่ของสถาบัน OPBF แห่งนี้นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันนี้ลีนั้นยังคงดำรงค์ตำแหน่งสมริหารของ WBC อยู่ด้วย นอกจากนั้นแล้วเหตุผลอีกอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นได้ชัดว่าผู้คนในดินแดนแห่งนี้ ชื่นชอบกีฬามวยสากลอาชีพกันค่อนข้างที่จะมาก นั่นก็คือ การจัดการแข่งขันมวยชิงแชมป์โลกในประเทศแห่งนี้ ที่มีมาแล้วมากมายหลายต่อหลายครั้งในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 3 สถาบันหลักอย่าง WBA, WBC, และ IBF ถึงแม้ว่าในเวลาต่อมาสถาบัน IBF นั้นจะไม่ได้รับการอนุญาตให้จัดการแข่งขันมวยชิงแชมป์โลกของสถาบันขึ้นในประเทศแห่งนี้แล้วก็ตาม
แม้ว่าปัจจุบันนี้กระแสมวยโลกในประเทศเกาหลีใต้จะไม่บูมมากเหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีนักชกชาวเกาหลีใต้ทั้งชายและหญิงทะยอยขึ้นชิงแชมป์โลกกันอยู่บ้างประปราย แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางออกไปชิงแชมป์โลกยังต่างแดนก็ตามที นอกจากนั้นแล้วคนมวยรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้นั้นก็เริ่มเปิดใจกว้างมากขึ้น ด้วยการอ้าแขนรับสถาบันมวยโลกใหม่ๆให้เข้ามาทำกิจกรรมได้ในประเทศ โดยเฉพาะสถาบันมวยโลกหญิงต่างๆ รวมไปถึงสถาบันหลักแห่งที่ 4 อย่างองค์กรมวยโลก หรือ WBO ที่สามารถจะนำเอาแชมป์ย่อยอย่าง WBO Asia Pacific และ WBO Inter-Continental เข้าไปจัดขึ้นที่ดินแดนกิมจิมาแล้ว
HTML Counter
กลับไปที่ หน้าหลักของเว็บไซด์
ไปที่ BB ทวิตเตอร์
ไปที่ BB เฟซบุ๊ค
ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงทุกวันนี้ ประเทศเกาหลีใต้นั้นมีแชมป์โลกมวยชายมาแล้วมากมายหลายคนจาก 3 สถาบันหลัก อย่าง WBA, WBC, และ IBF แต่เชื่อหรือไม่ว่า แชมป์โลกมวยชายรายล่าสุดของเกาหลีใต้นั้น กลับเป็นแชมป์โลกของสถาบันย่อยชั้นนำอย่าง IBO ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการคาดหมายว่า จะกลายเป็นเสือตัวที่ 5 ของวงการมวยโลกได้ในอีกไม่ช้าไม่นานนี้ และนักชกรายนี้ปัจจุบันก็ได้กลายเป็นนักชกเกาหลีใต้คนแรก ที่ได้รับการสร้างสรรจากโปรโมชั่นมวยโลกในอเมริกา ซึ่งนักชกพลังโสมรายนี้ มีชื่อว่า จิ-ฮุน คิม แชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวตของ IBO นั่นเอง
จิ-ฮุน คิม นั้นเกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 1987่เมืองโกยาง อันเป็นเมืองปริมลฑณทางตอนเหนือของกรุงโซล ปัจจุบันมีอายุได้ 23 ปีบริบูรณ์ ครอบครัวของเขานั้นมีกิจการร้านค้าปลีกเป็นของตนเอง แต่หนุ่มกิมจิเจ้าของความสูง 5 ฟุต 9 นิ้ว หรือประมาณ 176 ซ.ม.รายนี้กลับไม่ชอบการค้าขายสักเท่าไหร่ แต่กลับรักกีฬาเป็นชีวิตจิตใจโดยเฉพาะกีฬามวย โดยเขาเริ่มที่จะหัดมวยอย่างจริงจังตั้งแต่อายุ 16 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจขึ้นชกมวยอาชีพในปีต่อมา ทั้งๆที่ไม่เคยขึ้นสังเวียนในแบบสากลสมัครเล่นมาก่อนเลย ภายใต้การสนับสนุนของ อิลซาน จูยุบ บ๊อกซิ่ง ยิม และก็เป็นไปตามคาดเมื่อเขาต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนให้กับ วู-ซุง วู เพื่อนร่วมชาติไปในกำหนด 4 ยก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2004 ในการเทิร์นโปรชกอาชีพเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามเขานั้นกลับไม่ยอมที่จะย่อท้อ และสามารถที่จะกลับมาเอาชนะน็อคคู่ต่อสู้ในยกที่ 2 ได้อีก 2 ไฟต์รวดในปีเดียวกันนั้นเอง แต่จะด้วยความประมาทหรือย่างไรไม่ทราบได้ คิมนั้นตัดสินใจขึ้นชกไฟต์ที่ 4 ในชีวิตในปลายปีเดียวกันนั้นเอง ซึ่งไฟต์นี้นั้นห่างจากการชกก่อนหน้านั้นพียงแค่ 2 วันเท่านั้น และเขาก็ต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนน 4 ยก ให้กับ จู-ฮวาน โจ เพื่อนร่วมชาติไปในที่สุด
ปีถัดมาคิมนั้นขึ้นชกประเดิมไฟต์แรกตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ก็ต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายน็อค บยุง-คยุง ยุน ไปเพียงแค่ 37 วินาทีเท่านั้น หลังจากเปิดหน้าท้าแลกหมัดกับคู่ชกตั้งแต่ในยกแรก ซึ่งนับเป็นการพ่ายน็อคเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาด้วย อย่างไรก็ตาม คิมนั้นหยุดพักร่างกายเพียงแค่ 2 เดือนกว่าก็กลับคืนสังเวียนอีกครั้ง และก็สามารถที่จะคว้าชัยชนะได้ 3 ไฟต์รวด จึงได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นชิงแชมป์เฟเธอร์เวตของเกาหลีใต้ (KBC) ที่ว่าง เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2005 และคิมก็เดินควงหมัดไล่ถลุง จุง-ฮุน คิม นักชกชื่อคล้ายกันที่เคยขึ้นชิงแชมป์เส้นนี้มาแล้ว 2 หนแต่ไม่สำเร็จ พ่ายน็อคไปเพียงยกที่ 2 เท่านั้น คว้าแชมป์รุ่น 126 ปอนด์ของประเทศมาครองได้เป็นตำแหน่งแรก หลังจากนั้นคิมก็ขึ้นอุ่นเครื่องเก็บนักชกเลือดมังกร หวู เสี่ยว ซ่ง ไปได้ในยกที่ 6 ก่อนที่จะพลิกพ่ายคะแนน 10 ยก ให้กับ เฮือง-ชิค ลิม ส่งท้ายปี 2005 ไปแบบพลิกล็อคอีกปีหนึ่ง
อย่างไรก็ตามคิมนั้นในต้นปีต่อมา คิมก็กลับมาป้องกันแชมป์เฟเธอร์เวต KBC ครั้งแรก ซึ่งคิมก็ใช้เวลียง 5 ยกก็เก็บนักชกขี้แพ้อย่าง ดอง-กุ๊ก ลี ไปได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะเดินทางไปเป็นคู่อุ่นเครื่องให้กับ มาเคียว สึกิตะ อดีตแชมป์เยาวชน WBC หนึ่งเดียวของญี่ปุ่นในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวต ที่เมืองนาโกย่า และก็เป็นไปตามคาดเมื่อคิมนั้นตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนให้กับนักชกเจ้าถิ่นไปในท้ายที่สุด
หลังจากเป็นแชมป์ตัวจริงแต่เพียงผู้เดียวแล้ว คิมก็ขึ้นป้องกันแชมป์ PABA เอาไว้ได้อีก 2 ไฟต์ ด้วยการชนะ KO แจ-กวาง จุง อดีตแชมป์เฉพาะกาลรุ่นและสถาบันเดียวกันเพื่อนร่วมชาติไปในยกที่ 6 ต่อด้วยชนะ KO3 เอดูอาร์โด้ อปา-แอ๊บ อดีตผู้ท้าชิงแชมป์จูเนียร์เฟเธอร์เวต WBO Asia-Pacific ชาวฟิลิปปินส์ของ สด ปูนอินทรียิม ไปได้อย่างง่ายดาย โดยหลังจากไฟต์นี้นั้น ทีมงานของเขาก็ได้ตัดสินใจส่งเขาเดินทางไปเป็นคู่อุ่นกำปั้นให้กับมวยสร้างชาวจอร์เจียของ แบนเนอร์ โปรโมชั่นส์ โคบ้า เดอะ คอบร้า โกโกลาดเซ่ อดีตแชมป์จูเนียร์ไลต์เวต NABO 2 สมัย ที่เคยเป็นตัวแทนของสาธารณรัฐจอร์เจีย เข้าแข่งขันกีฬามวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิคเกมส์ปี 1996ที่ตัดสินใจคัมแบ๊กอีกหน หลังจากพ่าย TKO10 อเล็กซ์ อาเธอร์ ชวดแชมป์เฉพาะกาลรุ่น 130 ปอนด์ของ WBO ในการชกไฟต์ล่าสุด ซึ่งใครต่อใครพากันคิดว่าโกโกลาดเซ่จะต้องกู้ชื่อคืนได้อย่างแน่นอนในไฟต์นี้ และมวยซ้ายอย่างโกโกลาดเซ่ก็เปิดฉากลุยเข้าใส่นักชกจากเอเชียทันทีที่เสียงระฆังยกแรกดังขึ้น ซึ่งก็กลายเป็นว่าเข้าทางปืนมวยขวาอย่างคิมพอดี เมื่อคิมนั้นปิดป้องให้ต่อยอยู่พักหนึ่ง ก็สวนกลับมาอย่างหนักหน่วง และก็สบจังหวะยิงฮุคซ้ายส่งโกโกลาดเซ่ลงไปนอนนับแปดทันที เมื่อคู่ต่อสู้ลุกขึ้นมาได้ แต่ยังคงออกอาการให้เห็น คิมก็ปราดเข้าซ้ำด้วยหมัดขวาตรงและฮุคซ้ายส่งโกโกลาดเซ่ร่วงลงไปกองแบบหมดสภาพ กรรมการผู้ห้ามจึงเข้ายุติการชกแล้วชูมือให้คิมเป็นฝ่ายชนะ TKO ไปด้วยเวลา 2 นาที 27 วินาทีของยกแรกอย่างที่ไม่มีใครค่ 16 พฤษภาคม 2008และผลพวงจากไฟต์นี้นี่เองที่ทำให้ทาง แบนเนอร์ โปรโมชั่นส์ ก็ได้ตัดสินใจเซ็นต์สัญญารับ จิ-ฮุน คิม เข้าเป็นนักชกในสังกัดทันที พร้อมตั้งฉายาให้ว่า เซนเซชั่นนัล คิด แต่คิมเองนั้นก็ยังมีอีกฉายาหนึ่งว่า โวลคาโน่ ซึ่งหมายถึงภูเขาไฟนั่นเอง
ไฟต์ล่าสุดของคิมนั้นพึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกา โดยคิมนั้นต้องทำน้ำหนักขึ้นไปชกกับ ไทโรน แฮร์ริส อดีตแชมป์ไลต์เวต GBU และ USBA มวยเซ้าท์ปอว์ชาวอเมริกันผิวหมึก ซึ่งเป็นคู่เอกของรายการ ESPN ฟรายเดย์ ไนท์ ไฟต์ ทางช่อง ESPN2 ซึ่งมีขึ้น ณ สังเวียนมวยใน เปชานก้า รีสอร์ท แอนด์ คาสิโน ในเทเมคูล่า มลรัฐแคลิฟอร์เนียร์ ซึ่งการชกในไฟต์นี้ได้มีการถ่ายทอดสัญญาณกลับไปยังประเทศเกาหลีใต้ทางสถานีโทรทัศน์ KSBN ในเวลา 11 โมงเช้าของวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ ตามเวลาของเกาหลีใต้อีกด้วย ซึ่งในยกแรกๆนั้นแฮร์ริสนั้นเป็นฝ่ายทำคะแนนออกนำไปก่อน แต่หลังจากยกที่ 3 เป็นต้นไปคิมนั้นก็เดินไล่บี้จนทางคู่ชกชาวอเมริกันเริ่มที่จะไปไม่เป็น และในยกที่ 5 คิมก็บวกซ้ายส่งแฮร์ริสหงายหลังลงไปนอนตีแปลงให้กรรมการนับถึง 8 ก่อนที่จะคิมยำใหญ่อยู่ข้างเดียว จนกรรมการต้องเข้าจับแฮร์ริสแพ้ TKO ไปในยกที่ 5 ด้วยเวลา 1 นาที 52 วินาที เท่านั้น แม้ว่าแฮร์ริสจะพยายามบอกว่า ผมยังไหวอยู่ก็ตามปัจจุบันนี้ จิ-ฮุน คิม มีสถิติการชกชนะ 20 ไฟต์ (17KO) และแพ้ 5 ไฟต์ และเขายังได้ตัดสินใจที่สละสละตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวต IBO ไปตั้งแต่ก่อนหน้าการชกในไฟต์ล่าสุดนี้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น โดยรายงานข่าวจากประเทศเกาหลีใต้นั้นมีมาว่า ทาง แบนเนอร์ โปรโมชั่นส์ ได้เตรียมการชกไฟต์ใหญ่ในอเมริกาเอาไว้ให้กับเขาแล้ว ในวันที่ 18 เมษายนนี้ ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่มีการขึ้นป้ายรายการอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่ก็คาดการกันว่าน่าการชกในครั้งหน้าของคิมนั้นเป็นการชิงแชมป์ไลต์เวตสถาบันย่อยสถาบันใดสถาบันหนึ่งอย่างแน่นอนสไตล์การชกแบบเดินหน้าฆ่ามันอย่างนี้นี้ ถ้าหมอนี่ได้ฟาดปากกับ ซัดดำ ดา บอม เกียรติยงยุทธ อดีตแชมป์ WBC Asiaและ WBC International ชาวไทยเราในโอกาสต่อๆไป ก็คงจะเป็นมวยที่ถูกคู่กันไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะไม่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ต้องลงไปนอนกองกับพื้นสถานเดียวเท่านั้น แต่คงจะเป็นได้แค่ในฝัน เพราะโอกาสที่ทั้งคู่จะได้ชกกันนั้นมันน้อยมากเสียเหลือเกิน