ลุยมวยโลกสไตล์...บ๊อกซิ่ง บอยWBC เตรียมแจ้งเกิด แชมป์โลกเข็มขัดเงิน แชมป์โลกเงาสายพันธุ์ใหม่หากจะย้อนเวลากลับไปในอดีตยุคเมื่อหลายสิบปีก่อน เมื่อบรรดาแชมป์มวยโลกรายใดมีเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถจะขึ้นชกป้องกันตำแหน่งได้เป็นระยะเวลาอันยาวนานเกินสมควรนั้น ทางสถาบันมวยโลกในยุคดังกล่าว ก็มักที่จะสั่งปลดแชมป์โลกรายนั้นๆออกจากตำแหน่งไปอย่างไม่ใยดี พร้อมทั้งสั่งให้รองแชมป์โลกอันดับต้นๆให้ขึ้นชิงแชมป์โลกที่ว่างลงนี้ เพื่อหาผู้ที่เหมาะสมรายใหม่มาดำรงตำแหน่งแชมป์โลกอันทรงเกียรติสืบแทนต่อไปแต่ในเวลาต่อมานั้น หนึ่งในสถาบันมวยโลกหลักอย่างสภามวยโลก หรือ WBC ก็ได้ผุดไอเดียบรรเจิดในการจัดให้มีตำแหน่ง Interim Champion หรือที่เราๆเรียกขานกันว่า แชมป์เฉพาะกาลขึ้นมาเป็นสถาบันแรกเพื่อรองรับเหตุการณ์อันสุดวิสัยต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวของแชมป์โลก เช่น เจ็บป่วย, ได้รับบาดเจ็บ หรือ มีคดีความที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ที่จะเป็นเหตุให้แชมป์โลกของสถาบันไม่สามารถที่จะขึ้นชกป้องกันตำแหน่งของตนเองได้ภายใน 6 เดือน นั่นเท่ากับว่า แชมป์โลกตัวจริงจะถูกแขวนป้ายเป็นการชั่วคราว และจะให้ แชมป์เฉพาะกาลทำหน้าที่ในการขึ้นป้องกันตำแหน่งกับรองแชมป์โลกในอันดับของสถาบันแทนที่ไปก่อน ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้ เพื่อไม่ให้กิจกรรมของสถาบันในรุ่นนั้นๆต้องหยุดชะงักลง อันจะทำให้ขาดสภาพคล่องในเชิงธุรกิจไปมาก และในเวลาต่อมาสถาบันหลักอื่นๆอย่าง WBA, IBF,และ WBOก็ได้ขานรับนโยบายอันชาญฉลาดดังกล่าวนี้ของทาง WBC จึงทำให้มีการจัดชิงแชมป์เฉพาะกาลเกิดขึ้นในทุกๆสถาบันมาโดยตลอดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
HTML Counter
กลับไปที่ หน้าหลักของเว็บไซด์
ไปที่ BB ทวิตเตอร์
ไปที่ BB เฟซบุ๊ค
อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นเพราะด้วยศักดิ์ศรีของแชมป์ประเภทที่กล่าวมานั้น ดูว่าแทบจะไม่เป็นรอง แชมป์โลกตัวจริง ในสายตาของคนทั่วๆไปสักเท่าไหร่ ทำในบรรดาโปรโมเตอร์หลายรายต่างพากันขอชิงแชมป์ประเภทนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่า แชมป์โลกตัวจริง จะยังอยู่ดีมีสุขและพร้อมที่จะขึ้นป้องกันตำแหน่งได้อยู่ตลอดเวลาก็ตาม ซึ่งทางสถาบันต่างๆก็ยินยอมพร้อมใจที่จะอนุมัติให้มีการชิงแชมป์ประเภทนี้เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะทางสมาคมมวยโลกสถาบันมวยโลกอันเก่าแก่ที่สุดของโลกนั้น ถึงกับประกาศอย่างชัดเจนว่า จะอนุมัติให้มีการชิงแชมป์เฉพาะกาลขอสถาบันในทุกรุ่นๆ โดยมีข้อแม้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็คือ ทางแชมป์โลกตัวจริงนั้นยินยอมพร้อมใจให้มีแชมป์อีกคนหนึ่งในรุ่นเดียวกันก็พอไม่เพียงเท่านั้นเพราะเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ทางบรรดาคนหัวใสในบอร์ดบริหารของสภามวยโลกก็เกิดบรรลุไอเดียใหม่ๆอีกจนได้ เมื่อมีการจัดตั้งตำแหน่งแชมป์ประเภทใหม่ขึ้นมารองรับแชมป์โลกรุ่นเล็กที่จะข้ามรุ่นไปชิงแชมป์โลกรุ่นใหญ่กว่า แต่ยังหัวหมอไม่ยอมสละตำแหน่งขงไปก่อน ทำให้ทางสถาบันลงมติให้มีการสถาปนาให้แชมป์โลกรายนั้นขึ้นเป็น Emeritus Champion of the World หรือ แชมป์โลกเกียรติคุณของรุ่นเดิม ส่วนตำแหน่งให้ตำแหน่งแชมป์โลกนั้นให้ว่างลง โดยสถาบันจะทำการอนุมัติให้ 2 รองแชมป์โลกหัวแถวของรุ่น ขึ้นชิงแชมป์โลกที่ว่างนี้แทนที่ แต่เมื่อใดที่ แชมป์โลกเกียรติคุณ ต้องการกลับมาชิงแชมป์โลกในรุ่นเดิมอีกครั้ง ก็จะได้รับสิทธิ์ในการชิงแชมป์โลกคืนในทันที
อย่างไรก็ดีในภายหลังนั้นปรากฏว่า ทางสภามวยโลกได้มีการเปลี่ยนกฏในการสถาปนา แชมป์โลกเกียรติคุณ นี้ให้ใช้กับกรณีที่แชมป์โลกบางรายนั้นไม่สามารถที่จะป้องกันตำแหน่งได้ด้วยเหตุผลอื่นๆได้ด้วย จึงนับว่าเป็นการ แขวนป้ายลาหยุดพัก อย่างไม่มีกำหนด จนกว่านักชกคนดังกล่าวจะกลับมาพร้อมชกอีกครั้ง แต่ล่าสุดนั้นดูเหมือนว่ากฏจะถูกปรับเปลี่ยนกันอีกหน หลังจากที่ เอ็ดก้าร์ ตุน ตุน โซซ่า นักชกชาวจังโก้ ที่มีอันจะต้องเสียตำแหน่งแชมป์ไลต์ฟลายเวต WBC ให้กับ โรเดล มายอล นักชกชาวฟิลิปปินส์ ไปอย่างพลิกล็อค หลังจากถูกหัวของมายอลโขกเข้าที่โหนกแก้มซ้ายจนกระดูกแตกเลือดทะลักเข้าเต็มโพรงไซนัส ก่อนที่มายอลจะฉวยโอกาสทองสาวหมัดส่งโซซ่าลงไปนับ 8 ซึ่งแม้ว่าทางโซซ่าจะลุกขึ้นมาได้ก็ถูกยำจนร่วงลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง และถูกจับแพ้ TKO ไปในยกที่ 2 เท่านั้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจากการที่โซซ่าต้องเสียแชมป์โลกไปในแบบที่น่าจะเป็นฝ่ายชนะฟาวล์เช่นนี้ ทำให้สภามวยโลกตัดสินใจมอบตำแหน่ง แชมป์โลกเกียรติคุณ รุ่นไลต์ฟลายเวตให้กับทางโซซ่าในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น ซึ่งก็นับว่าแปลกแต่ก็มีเหตุผลอย่างชัดเจนที่สุดว่า WBC นั้นต้องการให้โซซ่าชิงแชมป์โลกของตนเองคืนโดยเร็วที่สุด ทันทีที่หายจากอาการบาดเจ็บ เพราะว่าการที่โซซ่าต้องมาแพ้น็อคแค่เพียงยกที่ 2 แบบนี้ หากจะใส่ชื่อทางโซซ่าเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 1 เพื่อรอชิงแชมป์โลกในไฟต์บังคับกับทางมายอลนั้น โซซ่าก็จะต้องถูกกล่าวหาว่าเป็น เด็กเส้น ของ WBC จากบรรดาแฟนมวยทั่วโลกอย่างไม่ต้องสงสัยและในปี 2009 ที่ผ่านมานี้เอง สถาบันเจ้าไอเดียอย่างสภามวยโลกก็ได้ผลักดันให้เกิดแชมป์ประเภทใหม่ที่เรียกว่าDiamond Belt Champion หรือ แชมป์เข็มขัดเพชร ขึ้นมาอีกตำแหน่งหนึ่งจนได้ ซึ่งรายงานนั้นระบุว่าทางบอร์ดบริหารของสถาบันได้ทำการประชุมหาข้อสรุปในกรณีนี้มานานกว่า 6 เดือน โดยจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ในการชกพิกัดกลางที่อยู่ระหว่างรุ่นมาตราฐานต่างๆ หรือที่เรียกกันรวมๆว่า Catch weight หรือ แคชเวต ซึ่งหลายครั้งหลายหนที่นักชกชื่อดัง ทั้งที่เป็นแชมป์โลกหรือรองแชมป์โลกของสถาบันมวยโลกต่างๆ ได้ถูกทางโปรโมเตอร์ทำการประกบคู่ให้ขึ้นชกกันนอกพิกัดรุ่น และต้องมีการถ่ายทอดสดทางระบบเปย์เปอร์วิวให้กับแฟนมวยทางบ้านได้สั่งซื้อรายการเพื่อรับชม ดังเช่นศึกชิงแชมป์โลกส่วนใหญ่ในอเมริกา แต่เนื่องจากการที่ไม่มีเข็มขัดแชมป์ใดๆเป็นเดิมพันนั้นอาจจะทำให้จุดขายของคู่มวยนั้นๆลดลง ดังนั้นทางสภามวยโลกจึงได้มีความคิดที่จะรับรองการชกในพิกัดกลางของ 2 นักชกชื่อดังดังกล่าว ให้เป็นการชิงแชมป์อีกประเภทหนึ่งซึ่งก็คือ แชมป์เข็มขัดเพชรอันจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางธุรกิจการถ่ายทอดสดมวยโลกทางทีวีที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
จนถึงทุกวันนี้มีคู่มวยคู่แรกและคู่เดียวที่ได้รับการอนุมัติให้ขึ้นชิง แชมป์เข็มขัดเพชร ของ WBCเส้นนี้ ก็คือ การชกในพิกัดกลาง 145 ปอนด์ ระหว่างแพ็คแมนแมนนี่ ปาเกียว แชมป์จูเนียร์เวลเตอร์เวต IBOในขณะนั้น ชาวฟิลิปปินส์ กับ มิกูเอล แองเจล ค็อตโต้ แชมป์เวลเตอร์เวต WBOชาวเปอร์โตริกัน เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ซึ่งในตอนแรกนั้นทาง ท๊อปแร้งค์ อินคอร์โปเรชั่นส์ ต้นสังกัดในอเมริกาของปาเกียวนั้น จะไม่ขอให้มีการนำเอาเข็มขัดแชมป์โลก WBOมาเป็นเดิมพันในไฟต์นี้ เพราะค่าแซงก์ชั่นนั้นแพงกว่า แชมป์เข็มขัดเพชร ของทาง WBC ถึง 3 เท่าตัว แต่ในที่สุดแล้ว WBO ก็ต้องยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ทำให้ในที่สุดการชกของคู่นี้มีเข็มขัดแชมป์โลกของค็อตโต้มาเป็นเดินพันอีกเส้นหนึ่งในท้ายที่สุด ก่อนที่ปาเกียวจะล่อเป้าแชมป์โลกชาวเปอร์โตริกัน คว้าแชมป์ 2 เส้นมาครองได้สำเร็จในที่สุด และก็พึ่งจะขึ้นป้องกันแชมป์โลกของ WBO สำเร็จไปแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยการต้อนตือชนะคะแนนอดีตแชมป์เวลเตอร์เวต IBF ชาวกาน่า โจชัวร์ คล็อตเต้ย์ ไปได้อย่างขาดลอย เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง แต่ในไฟต์นี้นั้นไม่ได้มีการนำ แชมป์เข็มขัดเพชร ของ WBC มาเป็นเดินพันด้วย ซึ่งก็คงเป็นเพราะว่าไฟต์นี้นักชกทั้ง 2 นั้นขึ้นชกกันในน้ำหนัก 147 ปอนด์ เต็มพิกัดรุ่นเวลเตอร์เวตนั่นเองและล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมานี้ ป๋าโฮดร. โฮเซ่ สุไลมาน ประธานใหญ่ของสภามวยโลก ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ทาง WBC นั้นเตรียมที่จะศึกษาถึงความเป็นไปได้ ถึงการที่จะจัดตั้งตำแหน่งแชมป์โลกประเภทใหม่ เพื่อทดแทนการขออนุมัติการจัดชิงแชมป์เฉพาะกาลที่นับวันนั้นจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งดูเหมือนว่าในปัจจุบันนี้ทุกสถาบันมวยโลกนั้นจะผ่อนปรนการอนุมัติให้มีการจัดชิงแชมป์ประเภทดังกล่าวนี้ได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าเจ้าของแชมป์โลกตัวจริงจะยังคงสามารถที่จะขึ้นป้องกันตำแหน่งของตนเองได้ตามระยะเวลาที่ทางสถาบันกำหนดทุกประการ อันทำให้แฟนมวยทั่วโลกเกิดข้อกังขาและสับสนเป็นอย่างมากอยู่ในทุกวันนี้
นอกจากนั้นแล้ว ดร. สุไลมานยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แชมป์โลกเข็มขัดเงิน นั้นจะเป็นการแก้ปัญหาการจัดชิงแชมป์เฉพาะกาลที่มีมากเกินความจำเป็นในปัจจุบันนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะกฏในการอนุมัติให้มีการชิงแชมป์เฉพาะกาลนั้น มันมีความชัดเจนในตัวของมันเองอยู่แล้ว กล่าวคือการชิงแชมป์เฉพาะกาลนั้นจะได้รับอนุมัติเมื่อเจ้าของแชมป์โลกในรุ่นนั้นๆ ไม่สามารถที่จะขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกของตนเองได้ภายใน 6 เดือน อันเนื่องมาจากปัญหาทางด้านกฎหมายหรือทางการแพทย์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นแชมป์โลกประเภทใหม่ที่จะก่อกำเนิดขึ้นมานี้ก็จะมาแก้ปัญหาดังกล่าว และถูกนำมาทดแทนความต้องการในการชิงแชมป์เฉพาะกาลที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามกฏที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ได้เป็นอย่างดี
จะว่าไปแล้วแชมป์โลกประเภทใหม่นี้นั้น ดูเหมือนว่าจะมีต้นแบบความคิดมาจากการก่อกำเนิดของ แชมป์นานาชาติ ของ WBC หรือ WBC International ในอดีตนั่นเอง ซึ่งเมื่อแรกเริ่มเดิมทีนั้นแชมป์ประเทภนี้ได้ถูกเรียกว่า WBC World Cup of Champion ซึ่งทางสถาบันนั้นได้ให้เหตุผลในการจัดตั้งแชมป์ประเภทนี้ว่า มีรองแชมป์โลกอันดับต่ำสิบเป็นจำนวนมาก ที่เป็นนักชกที่มีฝีมือดี แต่พวกเขาเหล่านั้นจะไม่มีสิทธิ์ในการขึ้นชิงแชมป์โลกของ WBC เพราะกฏของสถาบันในขณะนั้นระบุว่า ผู้ท้าชิงแชมป์โลกของ WBC จะต้องมีอันดับโลกติด 1 ใน 10 เท่านั้น ดังนั้นทาึงได้จัดตั้ง แชมป์นานาชาติ ขึ้นมา เพื่อให้รองแชมป์โลกอันดับต่ำสิบเหล่านี้ ได้ขึ้นชิงแชมป์เส้นนี้กัน โดยผู้ที่ได้ครอบครองแชมป์เส้นนี้นั้น จะได้รับสิทธิ์ให้ขึ้นชิงแชมป์โลกได้เหมือนกับรองแชมป์โลกอันดับ 1-10 ทุกประการ ซึ่งจากการก่อกำเนิดของแชมป์ดังกล่าวนี้ ทำให้ในแต่ละรุ่นจะมีแชมป์อยู่ 2 รายด้วยกัน คือ แชมป์โลก และ แชมป์นานาชาติ ซึ่งเป็นแชมป์คนที่ 2 รองจากแชมป์โลก ทำให้คนไทยเรานิยมเรียกแชมป์นานาชาติว่า แชมป์โลกเงา มากกว่าชื่อที่แท้จริงมาตั้งแต่ในยุคเริ่มแรกแล้ว และก็มีนักชกชาวไทยหลายรายที่ใช้แชมป์นานาชาตินี้เป็นบันไดในการก้าวขึ้นชิงแชมป์โลกในเวลาต่อมา เช่น ไอ้หมัดพลังช้าง นภา เกียรติวันชัย รวมไปถึง ไอ้หนึ่ง ฉัตรชัย สิงห์วังชา ก็เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ดี มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้ปัจจุบันนี้ความนิยมในการจัดชิงแชมป์นานาชาตินั้นลดลงเป็นอย่างมาก เหตุผลข้อแรกก็คือ มีการปรับเปลี่ยนกฏให้รองแชมป์ที่จะสามารถขึ้นชิงตำแหน่งแชมป์โลกได้นั้นมีจำนวนมากขึ้นกว่าในอดีต กล่าวคือขอแค่มีอันดับไม่ต่ำกว่า 15 ก็จะได้รับสิทธิ์ขึ้นชิงแชมป์โลกได้แล้ว อีกทั้งยังมีการบรรจุชื่อของแชมป์นานาชาติบางรายเข้ามาอยู่ในอันดับโลก 1-15 อีกด้วย ทำให้เมื่อได้ครองแชมป์นานาชาติและได้ตำแหน่งรองแชมป์โลกที่มีสิทธิ์ในการขึ้นชิงแชมปโลกแล้ว ดังนั้นเจ้าของแชมป์นานาชาติหลายราย ก็ไม่สนใจที่จะขึ้นป้องกันตำแหน่งของตนเองเลย จนมีการสละตำแหน่งหรือยอมให้สถาบันปลดออกจากตำแหน่งไปเป็นจำนวนมาก เพราะนักชกเหล่านั้นคิดเหมือนกันว่า อย่างไรตนเองก็มีอันดับโลกที่สูงพอที่จะขึ้นชิงแชมป์โลกได้แล้วนั่นเอง ทำให้กิจกรรมของแชมป์นานาชาติในปัจจุบันนี้ ดูว่าจะไม่คึกคักและสร้างรายได้ให้กับทางสถาบันมากเท่าที่ควร