เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) และ สเตฟาน ฟ็อกซ์ เลขาธิการ พร้อมคณะทำงานร่วมแถลงข่าว ภารกิจการนำเสนอมวยไทยผลักดันเข้าสู่การรับรองของ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เพื่อบรรจุเข้าเป็นชนิดกีฬาในมหกรรมกีฬาโอลิมปิค
ดร.ศักดิ์ชาย เผยว่า แผนการดังกล่าวนั้นมีการดำเนินงานต่อเนื่องมายาวนานนับสิบปี ตั้งแต่ พ.ศ.2539 และต้องผ่านสามขั้นตอนใหญ่ในการเสนอเข้าโอลิมปิค ซึ่งต้องนำเสนอข้อมูลทั้งหมดให้ สมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (sport accord) รับรอง จากนั้นไอโอซีจึงจะขอความเห็นมายัง สปอร์ต แอคคอร์ด ว่าจะพิจารณาชนิดกีฬาใดบรรจุในโอลิมปิก ปี ค.ศ. 2020 ซึ่งจะมีการตัดสินเลือกเจ้าภาพกันในเดือนก.ย.ปีนี้ ระหว่างเมือง มาดริด,โตเกียว,อิสตันบูล รวมทั้งจะบรรจุชนิดกีฬาเพิ่มอีก 2 ชนิดจาก 26 ให้เป็น 28 ชนิดกีฬา โดยในจำนวนนี้ มี 9 ชนิดกีฬาเสนอตัว และในจำนวนนั้น 3 ชนิดกีฬาเป็นกีฬาต่อสู้ ได้แก่ แซมโัสเซีย ลักษณะมวยปล้ำผสมยูโด) , คิ๊กบ๊อกซิ่และ มวยไทย
"ขณะนี้มวยไทยดำเนินการผ่าน 2 ขั้นตอนใหญ่ไปแล้ว โดยสปอร์ตแอคคอร์ดรับรองเรื่องเรียบร้อย แต่เราจะต้องรวบรวมข้อมูลตอบคำถาม 26 ข้อต่อไอโอซี ในวันที่ 15 มี.ค.นี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนนำเรื่องเข้าพิจารณาโดยคณะกรรมการบริหาร ไอโอซี ระหว่าง 29-31 พ.ค.นี้ ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย"
ดร.ศักดิ์ชาย เผยอีกว่า "หนึ่งในคำถามสำคัญของไอโอซีคือ มวยไทย เป็นองค์กรเดียวที่ครอบคลุมมวยไทยทั่วโลกหรือไม่ แล้วเหตุใดจึงมีองค์กรจัดแข่งขันขึ้นซ้ำซ้อนกัน อย่างรายการ "เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ" ที่จะมีขึ้นในไทยปีนี้ และที่ไต้หวันในปีหน้า ซึ่งผมจะชี้แจงไปว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะ"อิฟม่า"เรานั้นได้รับการสนับสนุนจาก อลป.ไทย ,กกท. กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา,กระทรวงวัฒนธรรม ฯลฯ ตลอดจนหน่วยงานรัฐอย่างถูกต้อง เพียงแต่ยังขาดงบประมาณในการใช้จ่าย ซึ่งแม้จะเคยมีการพูดคุยจากรัฐบาลก่อนว่า จะไดนช่วยเหลือประมาณ 40 ล้านบาท ทว่าจนถึงุกวันนี้ เรายังไม่เคยได้รับเงินสนับสนุนใดๆจากภาครัฐเลยแม้แต่บาทเดียวก็ตาม แต่ถึงจุดนี้ผมพร้อมยืนยันว่า เรากำลังดำเนินการมาถูกทาง และใกล้จะบรรลุเป้าหมายแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายในเดือนพ.ค.นี้เท่านั้น"
ด้าน สเตฟาน ฟ็อกซ์ เลขาฯอิฟม่า ชาวออสเตรเลีย เผยว่า "คู่แข่งที่สำคัญในการบรรจุเข้าอลป.นั้น ไม่ใช่ใคร แต่เป็นปัญหาภายในเรื่ององค์กรของมวยไทยด้วยกันเอง ทั้งนี้เพราะมวยไทยถือเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญได้รับการยอมรับไปทั่วโลก หากเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ ก็น่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่กีฬามวยไทย จะได้รับการผลักดันเข้าโอลิมปิคสมใจ ในราวปี ค.ศ.2020"
