ลุยมวยโลกสไตล์...บ๊อกซิ่ง บอย
บัลเวก บันโกยัน นิว แพ็คเคียว ตัดหน้านักชกไทยชิง ซ้ายหายนะ
ในบรรดาแชมป์โลกชาวญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันนี้นั้น หากไม่นับทาง ไอ้บ้านนอก โฮสึมิ ฮาเซกาว่า เจ้าของแชมป์แบนตั้มเวต WBC แห่ง ชินเซอิ ยิม ที่สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกเอาไว้ได้ถึง 10 ครั้ง และกำลังพยายามที่จะทำลายสถิติป้องกันแชมป์โลกที่มากครั้งที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ที่ไอ้อินทรีอำมหิต ชิราอิ โยโกะ กูชิเก้น อดีตแชมป์ไลต์ฟลายเวต WBA นักชกรุ่นพี่ที่ทำเอาไว้ได้ถึง 14 ครั้งให้จงได้ ก็คงจะต้องยอมรับกันว่า ซ้ายหายนะ โตชิอากิ นิชิโอกะ เจ้าของเข็มขัดแชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวตWBC เด็กปั้นของ ไทเก้น โปรโมชั่นส์ คู่ปรับเก่าของ พระกาฬหน้าขรึม วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์แบนตั้มเวต WBA และ WBC ชาวไทย นั้น ก็จัดได้ว่าเป็นแชมป์โลกในระดับแถวหน้าของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างสมภาคภูมิ เพราะนอกจากจะป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ 3 ครั้งแล้ว นิชิโอกะรายนี้ก็ยังเป็นนักชกญี่ปุ่นรายแรกในรอบ 24 ปี ที่หาญกล้าเดินทางออกไปป้องกันตำแหน่งยังต่างประเทศ และก็สามารถที่จะป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้สำเร็จ ด้วยการพลิกกลับมาชนะน็อคอดีตแชมป์แบนตั้มเวต WBO จอห์นนี่ กอนซาเลซ นักชกเม็กซิกันลงได้เพียงแค่ยกที่ 3 เท่านั้น หลังจากที่ตัวเองพลาดถูกนับ 8 ไปก่อนในยกแรก เมื่อกลางปีที่ผ่านมานั่นเอง
HTML Counter
กลับไปที่ หน้าหลักของเว็บไซด์
ไปที่ BB ทวิตเตอร์
ไปที่ BB เฟซบุ๊ค
แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว เมื่อทาง ไทเก้น โปรโมชั่นส ได้มีการแถลงข่าวการชกอย่าเงป็นทางการของมวยในรายการนี้ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 เมษายนที่จะถึงนี้ ที่เวที นิฮง บูโดกัง ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคู่เอกในรายการดังกล่าวนี้จะเป็นการล้มแชมป์โลก 2 สถาบัน ระหว่าง โฮสึมิ ฮาเซกาว่า แชมป์แบนตั้มเวต WBC นักชกเจ้าถิ่น กับ ฟรานซิสโก้ เคโอ-ชูลิโต้ มอนเทียล แชมป์ WBO รุ่นเดียวกันชาวจังโก้ ที่เป็นครั้งแรกที่ทางJBC นั้นอนุมัติเป็นกรณีพิเศษให้มีการนำเอาแชมป์โลกของสถาบันองค์กรมวยโลกมาจัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นได้ แม้ว่าจะดูไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ก็ตาม ทั้งนี้เพราะหากทางฮาเซกาว่านั้นเป็นผู้ชนะในไฟต์นี้ ก็เชื่อว่าจะต้องถูกทางJBC บีบให้สละตำแหน่งแชมป์โลกของ WBO ไปในที่สุดก็ตาม ส่วนคู่รองในรายการนี้นั้นจะเป็นการป้องกันแชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวต WBC ครั้งที่ 4 ของ โตชิอากิ นิชิโอกะ จริงๆ ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้า แต่ผู้ท้าชิงของแชมป์โลกรุ่น 122 ปอนด์ชาวญี่ปุ่นนั้น กลับกลายเป็นนักชกฟิลิปปินส์ที่ชื่อว่า บัลเวก บันโกยัน รองแชมป์โลกอันดับที่ 11 ไม่ใช่นักชกไทยรายใดรายหนึ่งแต่อย่างใด
อันว่า บัลเวก บันโกยัน นั้นจัดได้ว่าเป็นนักมวยดาวรุ่งรุ่นใหม่ของฟิลิปปินส์ในยุคนี้ เขาเกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1987 ปี ที่เมือง คาบาโต้ เดอ ซูร์ ประเทศฟิลิปปินส์ ปัจจุบันมีอายุได้ 23 ปี เป็นมวยถนัดขวาที่มีส่วนสูง 168 เซ็นติเมตร และมีสถิติชนะรวด 15 ไฟต์ ซึ่งเป็นชัยชนะในแบบน็อ ไฟต์ด้วยกัน หรือคิดเป็น 47% โดยประมาณ ซึ่งตัวของบันโกยันนั้นมีฉายาอย่างเป็นทางการว่า เดอะ ดาเวา ฮิตแมน แต่กลุ่มแฟนๆมวยของเขากลับพอใจที่จะเรียกเขาว่า นิว แมนนี่ แพ็คเคียว มากกว่า
หลังจากได้ครองแชมป์เส้นเล็กของประเทศแล้ว (เส้นใหญ่คือแชมป์ของ GAB) บันโกยันก็ขึ้นชกชนะรวดอีก 3 ครั้ง ซึ่งเป็นการป้องกันตำแหน่ง 2 ครั้งกับอุ่นเครื่อง 1 ครั้ง โดยเป็นการชนะ TKO จูน ปาเดอร์ คู่ปรับเก่าของ วันดี สิงห์วังชา, เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม, และ ประมวนศักดิ์ ก่อเกียรติยิม ในยกที่ 5 ป้องกันตำแหน่งครั้งแรกเอาไว้ได้ ตามด้วยการชนะคะแนน โรเบอร์โต้ ดาลิเซ่ย์ คู่ปรับเก่าของ สมศักดิ์ ก่อเกียรติยิม, ฟ้าประกอบ รักเกียรติยิม, ทอง ป.โชคชัย, แสงหิรัญ วิคตอรี่ยิม, และ ฟ้าใส ศักดิ์กรีรินทร์ ในการชกนอกรอบกำหนด 10 ยก และปิดท้ายด้วยการชนะ KO2 ฟิล แองคามอร์ ป้องกันแชมป์ PBF หนที่ 2 เอาไว้ได้สำเร็จ ก่อนที่จะได้รับโอกาสให้ขึ้นชิงแชมป์ WBC International รุ่น 122 ปอนด์กับ ซันเด โอเทียโน่ เจ้าของตำแหน่งชาวเคนย่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2008 ซึ่งในไฟต์นั้นบันโกยันนั้นพลาดถูกเจ้าของตำแหน่งต่อยร่วงลงไปนับ 8 ตั้งแต่ยกแรก แถมยังถูกแชมป์ชาวเคนย่าโขกจนแตกที่เปลือกตาซ้ายในยกที่ 2 อีกด้วย ซึ่งยังผลให้โอเทียโน่นั้นถูกตัดคะแนนถึง 2 แต้มในทันที และเมื่อเกมการชกดำเนินมาถึงยกที่ 5 แผลแตกแผลนี้ของบันโกยันก็ขยายกว้างจนน่ากลัว ก่อนที่แพทย์สนามจะแนะนำให้กรรมการผู้ห้ามบนเวทีทำการยุติการชกทันที และหลังจากการรวมคะแนนแล้ว บันโกยันนั้นก็เป็นฝ่ายได้รับการชูมมือให้คะแนนไป 48-45 จากกรรมการทั้ง 3 ท่าน ได้ครองเข็มขัดแชมป์เงา WBC ในรุ่น 122 ปอนด์เป็นเส้นที่ 2 ในชีวิต
ในเวลาต่อมาบันโกยันนั้นก็ได้รับการสนับสนุน ให้ขึ้นชิงแชมป์เส้นเดิมของตนเองที่ว่างอยู่อีกครั้ง กับ เรย์มอนด์ โฟร์แมน เซอร์โมน่า เพื่อนร่วมชาติจากค่าย อีลอร์เด้ บ๊อกซิ่ง สเตเบิ่ล ซึ่งในการชกครั้งนี้นั้นทั้งคู่ต่างก็ดวลกำปั้นกันได้อย่างคู่คี่สูสี ก่อนที่ท้ายที่สุดบันโกยันก็ได้รับการชูมือให้ชนะไปในแบบเสียงข้างมาก 116-112, 115-113, และ 114-114 คว้าแชมป์เงาของ WBC ในรุ่นเดิมมาครองได้อีกเป็นสมัยที่ 2 และนี่ก็เป็นการขึ้นชกไฟต์ล่าสุดของนักชกดาวรุ่งดวงใหม่รายนี้
ในปัจจุบันนี้ความนิยมในตัวของบันโกยันนั้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้นอกจากเหตุผลที่ว่าเขาเป็นนักชกฝีมือดี ที่มีสถิติสวยหรูไม่เคยแพ้ใครแล้วนั้น ยังเป็นเพราะว่านักชกหนุ่มรายนี้มีรูปร่างที่สมส่วนกำยำ และยิ้มง่ายเป็นกันเอง ทำให้แฟนมวยจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มพวกสาวๆนั้น ต่างก็หันมาเทใจเชียร์นักชกหนุ่มความหวังใหม่รายนี้กันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงกับมีการตั้งฉายาให้กับเขาอย่างไม่เป็นทางการว่า นิว แมนนี่ แพ็คเคียวตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
เดิมทีนั้นบันโกยันนั้นมีโปรแกรมที่จะขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์สมัยที่ 2 กับ จอง-วอง จอง นักชกพลังโสมวัย 23 ปีเท่ากัน ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ ที่ ดิกอส ซิตี้ ในประเทศฟิลิปินส์ ภายใต้การสนับสนุนของสปอนเซอร์รายใหม่ ดิ เอลมอเร่ ออย คอมปานี บริษัทยาสัญชาติออสเตรเลีย เจ้าของสินค้า เอลมอเร่ ออย น้ำมันแก้ปวดเมื่อยและเคล็ดขัดยอก ทำนองเดียวกันกับ น้ำมันมวย ของเมืองไทย แต่ในที่สุดแล้วรายการมวยนัดนี้ก็ต้องถูกยกเลิกไปอย่าวกระทันหัน เพราะบันโกยันนั้นได้รับรับการติดต่อให้เดินทางไปชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวตของ WBC จาก โตชิอากิ นิชิโอกะ เจ้าของตำแหน่งชาวญี่ปุ่น ในวันที่ 30 เมษายนนี้ ที่งสังเวียน นิฮง บูโดกัง ในกรุงโตเกียว ซึ่งนอกจากจะเป็นการขึ้นชกชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในชีวิตของนักชกหนุ่มผู้ไร้พ่ายจากฟิลิปปินส์รายนี้แล้ว ไฟต์นี้ก็ยังจะเป็นการเดินทางออกไปขึ้นชกยังต่างประเทศเป็นครั้งแรกของเขาอีกด้วย